ฮวงจุ้ย : เมื่อบ้านมีระเบียบ ฮวงจุ้ยก็ดีได้
รายงานโดย :ปู โลกเบี้ยว รู้สึกว่าสมัยนี้คนเราหันมาสนใจเรื่องฮวงจุ้ยกันมากขึ้น พอๆ กับการดูดวงเลยล่ะ ในบางรายยอมที่จะจ่ายเงินมากมายเพื่อเชิญอาจารย์ชื่อดังมาดูและตรวจดูบ้านของตัวเอง ถ้าโชคดีเจออาจารย์ดีไม่เห็นแก่เงิน หรือการค้ามากมายนัก อาจารย์เหล่านั้นก็จะทำให้สถานการณ์ของบ้านนั้นๆ ดีขึ้น แต่ถ้าโชคไม่ดีนักเจอพวกที่มีประสบการณ์น้อย แต่ทำตัวเป็นอาจารย์ (ซะแล้ว) แถมยังเรียกร้องเงินทองเสียมากมาย เชิญมาแล้วสถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น หรือยิ่งแย่ลงเข้าไปใหญ่ เหมือนโดนหลอก อ้าว!..ถ้ามีเงินหน่อยก็เปลี่ยนอาจารย์ไปเรื่อยๆ ปูมีเพื่อนๆ หลายคนทีเดียวที่เรียนเชิญหลายอาจารย์มาจัดบ้านให้แล้วก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย หรือดีอยู่แป๊บเดียวก็แย่ลงอีก น่าเห็นใจนะคะ ก็คนเราน่ะอยากให้บ้านและชีวิตมีแต่เรื่องดีๆ กันทั้งนั้นแหละ จึงได้เสาะแสวงหาสิ่งดีๆ ถ้าไม่เจอก็หาไปเรื่อยๆ ปูเคยทำรายการเกี่ยวกับบ้าน รายการ ?ก๊อก ก๊อก ก๊อก? อยู่พักหนึ่ง ไปบ้านไหนก็มีแต่คนถามเรื่องฮวงจุ้ย เลยทำให้ต้องไปศึกษาหาความรู้มาประดับหัวสมอง แต่แล้วก็ไม่ค่อยได้ใช้หรอกค่ะ เพราะด้วยความที่ปูได้ตระหนักแล้วว่าแท้ที่จริงฮวงจุ้ยก็คือวิทยาศาสตร์ธรรมชาตินั่นเอง คือเมื่อบ้านอยู่ในตำแหน่งทิศทางที่ดี การจัดวางข้าวของในบ้านที่ไม่รกเป็นระเบียบ บ้านมีลมพัดผ่านถ่ายเทได้ดีอยู่แล้ว สบายไม่อึดอัด เจ้าของบ้านอยากอยู่บ้านเพราะอยู่แล้วมีความสุข นั่นแหละคือฮวงจุ้ยที่ดีแล้วล่ะ อีกอย่างปูจะให้ความสำคัญทางด้านจิตใจของผู้อยู่อาศัยมากกว่า เพราะบ้านของเขา เขาต้องอยู่ไปตลอดชีวิต แต่เราเป็นใครมาจากไหนไม่รู้เข้าไปในบ้านเขาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง แต่ดันเที่ยวไปจัดปรับ แต่ง ลื้อ ค้น ติบ้านเขาซะเละไปหมด มีอย่างที่ไหนกัน อีกอย่างถ้าทำอย่างนั้น เมื่อเราออกจากบ้านเขาไปแล้วก็แล้วกัน แต่เจ้าของบ้านล่ะต้องอยู่ที่นั่นด้วยความไม่สบายใจไปตลอดอย่างนั้นหรือ?? ปูจึงไม่ทำหรือพูดอะไรให้เจ้าของบ้านไม่สบายใจ จะพูดจะบอกเฉพาะสิ่งที่เราเห็นว่าเขาสามารถทำได้ และเมื่อเขาฟังเราพูดแล้วสบายใจมากกว่า ปูจึงค่อนข้างระวังมากๆ
ในเรื่องแบบนี้ และวันนี้ก็จะมาแนะนำบ้านที่สามารถช่วยคุณประหยัดพลังงานได้ไม่มากก็น้อยล่ะ นั่นก็คือลองสังเกตบ้านของตัวเองดูซิ ว่าหน้าบ้านหรือหลังบ้านโดนแดดเข้าอย่างจังมั้ย หรือโดนแค่เฉียดๆ เพราะถ้าจะดีบ้านเราต้องไม่ควรโดนแดดส่องเข้ามาให้มากนัก แต่ไม่ใช่ไม่มีแสงแดดเข้ามาเลยนะ เพราะถ้าบ้านมืด อับทึบ ก็จะกลายเป็นผลร้ายอีก บ้านจึงต้องไม่โดนแดดมาก เช่น ควรจะมีผนังที่อยู่ทางด้านทิศเหนือหรือใต้ให้มากกว่าตะวันออกหรือตก จะได้โดนแดดน้อยๆ หรือห้องที่ใช้มาก เช่น ห้องนอน ห้องกินข้าวต้องโดนแดดให้น้อย เพราะเมื่อเวลาที่เราอยู่อาศัยจะได้ไม่ต้องเปิดแอร์บ่อยๆ แล้วแอร์ก็ไม่ต้องทำงานหนักด้วย ถ้าอยู่ฝั่งตะวันตกเจอแดดแรงตอนบ่าย ห้องจะเก็บความร้อนไว้มาก แอร์ก็จะทำงานหนัก เปลืองเงินน่ะซิ และถ้าสามารถเปิดประตูหรือหน้าต่างในทิศใต้ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้ไว้เพื่อให้ลมพัดผ่านเข้ามาในบ้านบ้างก็จะดี เพื่อเป็นการถ่ายเทอากาศ และระบายความร้อน เพราะลมมักพัดมาจากทางใต้ ตะวันออกเฉียงใต้ มากกว่ามาทางเหนือ แต่ถ้าไม่สามารถจะรับลมที่มาจากทางใต้ได้ก็ไม่ต้องเสียใจนะคะ เพียงแค่คุณหัดเปิดบ้านให้ลมและแสงแดดเข้าไปในบ้านของคุณบ้างก็พอ อย่างน้อยอย่าให้บ้านอับทึบ หรือปิดประตูหน้าต่างปิดม่านซะมืดเชียว แล้วใช้เปิดแอร์เปิดไฟแทน อย่างนี้เปลืองแบบเห็นๆ แล้วเวลาเปิดบ้านให้ลมเข้าต้องมีทางให้ลมออกด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้นลมมันจะไม่เข้าค่ะ เพราะมันต้องมีทางเข้าคือดูดเข้ามา และมีทางออกเพื่อให้ผ่านเข้ามาในบ้านและออกไปยังไงล่ะคะ
ที่สำคัญหน้าบ้านต้องไม่รกสกปรก ควรจะโล่งและโปร่ง เพราะในทางฮวงจุ้ยนั้นประตูบ้านเปรียบเสมือนปากไม่ควรมีอะไรมาเกะกะขวางทางกินถูกมั้ยคะ? ส่วนหน้าต่างนั้นเปรียบเสมือนดวงตา เมื่อคุณเปิดหน้าต่างออกไปเห็นแต่สิ่งสวยงามคุณก็จะรู้สึกสบายจริงมั้ยคะ? บางคนต้องเถียงอยู่แน่เลยว่าไม่สามารถ เพราะฝุ่นจะเข้าบ้านเยอะมาก แหม! ขอแค่เปิดรับลมและแสงแดดเพียงวันละแค่ 15 นาทีถึงชั่วโมงก็พอแล้วค่ะ ไม่ต้องเปิดทั้งวันหรอก เดี๋ยวลมมันจะไม่เข้าอย่างเดียว ขโมยมันจะมาเป็นเพื่อนด้วยนะซิคะ