ถนนแบบไหนมีฮวงจุ้ยดี

การเลือกทำเลที่ดิน บ้านพักอาศัย โรงงาน สำนักงาน ในปัจจุบัน ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมภายนอกที่ขาดไม่ได้ก็คือเรื่องของ “ถนน” ใช่หรือไม่ครับ เพราะตามหลักความจริงหากเราเลือกทำเลสักที่การที่ต้องมีถนนตัดผ่านนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่ง

ถนนแบบไหนมีฮวงจุ้ยดี

ถนนแบบไหนมีฮวงจุ้ยดี

ซึ่งในหลักความจริงข้อนี้สอดคล้องกับหลักฮวงจุ้ย เพราะในปัจจุบันเรามอง “ถนน” เป็นจุดจ่ายกระแสพลังในรูปแบบหนึ่งซึ่งถือเป็นจุดจ่ายพลังรูปแบบพื้นฐานที่แต่ละสถานที่สมควรได้รับ นั่นก็เพราะ “ถนน” เป็นสิ่งที่เชื่อมต่อหรือนำพาเอา รถ คน หรือ ยานพาหนะรูปแบบต่างๆ ให้ผ่านไปมาถึงจุดหมาย ซึ่งยานพาหนะเหล่านี้ก็จะสามารถลากหรือนำพากระแสลมหรือกระแสพลังให้ผ่านมาที่หน้าสถานที่ของท่านได้ด้วย

ดังนั้นหากเราจะบอกว่าการเลือกถนนที่มี “กระแสพลังที่ดี” ก็ทำให้มีโอกาสที่จะเป็น “ถนนที่มีฮวงจุ้ยที่ดี” ได้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่เข้าใจถูกต้องเช่นเดียวกันครับ ซึ่ง “กระแสพลังที่ดี” นั้นซินแสที่มีประสบการณ์ก็จะต้องพิจารณาควบคู่กันไปทั้งในเชิง “ปริมาณ” และ “คุณภาพ” ด้วย โดยหารเราจะสรุปหลักการเลือกถนนแบบที่มีฮวงจุ้ยที่ดีนั้น ผมก็ขอสรุปเป็นหลักการง่ายๆดังนี้ครับ

1. ถนนสายที่ใหญ่มีโอกาสที่จะมีฮวงจุ้ยที่ดีกว่าสายเล็ก เพราะถนนนั้นไม่ได้มีพลังโดยตนเอง ถนนเป็นเพียงสิ่งปลูกสร้างทางวิศวกรรมที่มีหน้าที่เป็นทางผ่านของยานพาหนะ ยานพาหนะเมื่อเคลื่อนไหวก็มีการลาก “กระแสพลัง” ผ่านไปมาได้ ถนนสายที่ใหญ่ก็ยิ่งมีโอกาสที่จำนวนของยานพาหนะหรือมีกระแสพลังไหลหลากได้มากเท่านั้น หรือหากเลือกได้จำนวนเลนส์สัก 4 เลนส์ สำหรับถนนสองทางสวนกันนั้นถือว่ากำลังดี เพราะรถจะสามารถวิ่งไหลได้ตลอดค่อนข้างราบรื่น ผิดกับถนนสองเลนส์ที่หากมีรถจอดขวางก็จะติดขัดทำให้กระแสพลังไหลไม่สะดวกเกิดเป็นกระแสที่อุดตัน

2. ถนนโค้งโอบดีกว่าโค้งเฉือนและดีกว่าถนนตรง เพราะถนนที่โค้งโอบนั้นจะมีการออกแบบให้ผิวหน้าของถนนนั้นเป็น Slope เทกลับมาด้านในโค้งเสมอ จึงทำให้เกิดสภาพการส่งกระแสพลังไหลเข้ามาด้านในโค้งเสมอแม้ว่าจะไม่ได้มีการวิ่งผ่านของยานพาหนะ ดังนั้นเราจึงถือว่าโค้งโอบนั้นเป็นโค้งที่มีกระแสพลังในตัวมันเองทั้งในเวลาที่มีการจราจรคับคั่งหรือไม่มีเลยก็ตาม ส่วนโค้งเฉือนนั้นเวลาที่รถวิ่งก็จะมี “แรงหนีศูนย์กลาง” ส่งพลังออกมาให้บ้านหรืออาคารที่อยู่ทางด้านนอกโค้งได้เช่นเดียวกัน แต่จะรับพลังได้ก็เฉพาะตอนที่มียานพาหนะวิ่งผ่านเท่านั้น เพราะลักษณะถนนโค้งเฉือนจะกลับกันกับถนนโค้งโอบ เพราะ Slope ของผิวถนนจะเทไหลออกจากฝั่งโค้งเฉือนเท่านั้น ทำให้เวลาไม่มีรถวิ่งผ่านจะฝั่งโค้งเฉือนจะสะสมพลังไม่ได้ ส่วนถนนสายตรงๆก็มีเกรดของฮวงจุ้ยแบบธรรมดาไม่ดีไม่เสีย ซึ่งเราก็ต้องดูลักษณะอื่นๆประกอบกันไปด้วยนั่นเองครับ

3. จุดตัดทางแยก เช่นวงเวียน สี่แยก สามแยก มีโอกาสมีฮวงจุ้ยที่ดี เพราะเป็นจุดที่จะมีกระแสพลังมีสะสมตัวได้เยอะ ผมยกตัวอย่างให้ลองคิดถึงภาพรถที่วิ่งมาจากถนนสี่สายแล้วมาบรรจบกันที่สี่แยก รถวิ่งมาไกลๆ และลากพลังมาหยุดหรือมาชะลอตัวที่แยก จึงถือว่าจุดตัดทางแยกเป็นจุดที่สะสมกระแสพลังได้มาก อย่างไรก็ตามการเลือกว่าจะอยู่ “ฝั่งใดของแยก” และ “เปิดหน้าเข่าสู่ถนนเส้นใด” นั้นเป็นสิ่งที่ต้องใช้ประสบการณ์ของอาจารย์ฮวงจุ้ยเป็นอย่างมากทีเดียวครับ เพราะหากเลือกถูกฝั่งนั้นจะถือว่าเป็นทำเลทองที่รับกระแสพลังอยู่ตลอดเวลามีโอกาสที่จะเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างสูง แต่หากเลือกผิดด้านนั้นก็จะเจอสภาพเจอแต่ “กระแสพลังไหลออก” ตลอดเวลาได้เช่นเดียวกัน แทนที่จะดีกลับกลายเป็นร้านได้มากๆ เรียกว่าหากเจอทำเลที่เป็นจุดตัดทางแยกนั้นเข้าข่ายที่ว่า “ถ้าดีดีมาก ถ้าร้ายร้ายมาก” เช่นเดียวกันครับ

4. ทางสามแพร่ง ถ้าดีดีสุดๆ ถ้าร้ายก็ร้ายสุดๆ เพราะสามแพร่งนั้นเป็นลักษณะถนนที่ส่งพลังไหลเข้ามาหล่อเลี้ยงที่ดิน อาคาร บ้านพักอาศัยของเราอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าในเชิงของ “ปริมาณ” นั้นผ่านเต็มร้อยครับ เพราะถึงไม่มีรถวิ่งผ่านการที่มีถนนโปร่ง โล่ง พุ่งเข้ามาที่หน้าบ้านเรา ก็เรียกว่ามี “ช่องลม” บังคับให้ลมธรรมชาติพัดผ่านจ่ายกระแสพลังกลับเข้ามาหาเราได้ด้วยนั่นเอง ดังนั้นในเชิง “ปริมาณ” นั้นผ่านแน่ๆ

เพียงแต่ว่าในท้ายที่สุดซินแสก็ต้องนำมาคำนวณว่า ทิศทางของสามแพร่งนั้นมี “คุณภาพ” ของกระแสพลังที่ดีหรือไม่ หากเจอ “ช่องย่อย” ที่ดีก็เจริญรุ่งเรืองแบบ “สุดๆ” เพราะกระแสพลังที่ดีทั้งปริมาณและคุณภาพหลากไหลเข้ามาที่อาคาร ที่พักอาศัยของท่านตลอด ยิ่งหากเข้ากับ “ดวงชะตา” ของท่านด้วยยิ่งถือว่าได้ “โชคแบบสองต่อ” เป็นที่มาของความเจริญรุ่งเรืองแบบพลิกฝ่ามือ!! ในทางกลับกันครับหากท่านเจอสามแพร่งที่มีจาก “ทิศเสื่อม” นั่นก็แปลว่าอาคารของท่านนั้นถูกบังคับให้รับพลังที่เสื่อมตลอดเวลา จึงเป็นที่มีของโอกาสที่จะเกิดความเสื่อมได้มากกว่าทำเลถนนแบบอื่นๆนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม “ถนน”ยังเป็นเพียงหนึ่งปัจจัยที่ซินแสที่มีประสบการณ์นั้นใช้ในการประเมินคุณภาพของฮวงจุ้ยเท่านั้น แท้จริงแล้วเรามองปัจจัยทุกๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับที่ดินของท่านเพื่อนำมาประเมินคุณภาพฮวงจุ้ยเพื่อช่วยในการปรับแต่งให้ดึงเอาศักยภาพของที่ดินหรืออาคารสิ่งปลูกสร้างของท่าน เพื่อนำเอากระแสพลังมาเสริมดวงชะตาของท่านและสมาชิกในบ้านให้มากที่สุด ซึ่งเรียกว่าต้องดูกันและเอียดทั้งในหลักการของฮวงจุ้ยทั้งเชิงองศาทิศทาง (Compass Feng Shui Theory) ฮวงจุ้ยเชิงชัยภูมิ (Landform Feng Shui Theory) ร่วมกับการผูกดวงตามระบบวิชาการ โดยใช้ ปี เดือน วัน ยาม ที่ท่านเกิดมาจริงๆ (Four Pillars Destiny) เพื่อให้ 3 ปัจจัย มนุษย์ ฟ้า ดิน ส่งพลังถึงกันได้มากที่สุดครับ

เรื่องนี้ถูกเขียนใน หลักฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ย, ฮวงจุ้ยบ้าน และติดป้ายกำกับ , , , , , , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *